21 มกราคม 2023 ที่ผ่านมา เชลซี บุกไปเสมอ ลิเวอร์พูล 0-0 เกมดังกล่าว เซซาร์ อัซปิลิเกต้า ลงสนามเป็นสำรองในนาที 81 ซึ่งนับเป็นเกมที่ 500 ที่เขาลงรับใช้ "สิงห์บลู" เราไปดูเส้นทางของ "กัปตันเดฟ"
ค่าตัวเพียง 7 ล้านปอนด์
เซซาร์ อัซปิลิเกต้า รับใช้ มาร์กเซย์ 2 ซีซั่น พาทีมคว้าแชมป์ เฟรนซ์ ลีกคัพ ในฤดูกาล 2011/12 ด้วยการเอาชนะ ลียง 1-0 ซึ่งในซีซั่นต่อมา (2012/13) เชลซี วางเงิน 7 ล้านปอนด์ ดึงตัวมาร่วมทีม พร้อมกับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น , มาร์โก มาริน , เอเดน อาซาร์ , ออสการ์ และ วิคเตอร์ โมเซส ซึ่งทุกรายชื่อที่ไล่เรียงมา ได้ย้ายออกจากทีมหมดแล้ว
ลงเล่นทุกนัดในซีซั่น 2016/17
เข้าสู่ฤดูกาลที่ 5 กับสิงห์บลู เซซาร์ อัซปิลิเกต้า ยังยึดตัวหลักของทีมได้อย่างต่อเนื่อง ลงเล่น 47 นัดรวมทุกรายการ แบ่งเป็นการลงเล่นพรีเมียร์ลีกครบทั้ง 38 นัด (ตัวจริงทุกนัด) แล้วมีส่วนในการพา เชลซี คว้าแชมป์ด้วยการทิ้งห่างรองแชมป์อย่าง สเปอร์ 7 คะแนน แล้วนี่เป็นการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกร่วมกับ เชลซี เป็นหนที่ 2 (ครั้งแรกในซีซั่น 2014/15)
คว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงเล่นกับ เชลซี
นับตั้งแต่มาอยู่กับ เชลซี ท่ามกลางผู้เล่นระดับโลก ที่หลั่งไหลเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ดาวเตะค่าตัวแค่ 7 ล้านปอนด์ ยังคงครอบครองตำแหน่งตัวจริงได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมประสบความสำเร็จอย่างมากทาย ซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงคือการคว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่ง ไล่ตั้งแต่ แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย แชมป์ยูฟ่า แชมป์เปียนลีก 1 สมัย แชมป์สโมสรโลก 1 สมัย แชมป์ยูโรป้าลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอคัพ 1 สมัย แชมป์ลีกคัพ 1 สมัย และแชมป์ยูฟ่า ซุปเปอร์คัพ 1 สมัย
รับบทกัปตันทีมในปี 2019
หลังอยู่กับ เชลซี มา 7 ปี เซซาร์ อัซปิลิเกต้า ได้รับตำแหน่งกัปตันทีม ในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ซึ่งในฤดูกาลดังกล่าว (2018/19) เซซาร์ลงเล่น 57 นัดรวมทุกรายการ พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก จบที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก แล้วก็รองแชมป์ลีกคัพ
นักเตะต่างชาติคนแรกที่ลงเล่นให้ เชลซี ครบ 500 นัด
เชลซี เป็นสโมสรที่ซื้อนักเตะเข้าสู่ทีมมากมาย แต่มีไม่กี่คนที่ยืนหยัดอยู่กับทีมได้นานขนาดนี้ ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เซซาร์ อัซปิลิเกต้า รับใช้ทีมมาแล้ว 500 นัด นั่นทำให้เขาเป็นนักเตะต่างชาติคนแรก ที่รับใช้ทีมครบ 500 นัด ยิง 17 ประตู จ่าย 56 แอสซิสต์
"ผมรู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติมาก ที่ได้รับใช้เชลซีถึง 500 นัด มันจะไม่มีวันนี้เลย หากไม่มีความเชื่อมั่นจากสโมสร กุนซือ สต๊าฟโค้ช นั่นรวมไปถึงเพื่อนร่วมทีม ทุกคนต่างร่วทกันทำงานอย่างหนัก เพื่อพาเชลซี ขยับขึ้นไปเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกลูกหนัง"
ติดตามเรื่องราวที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ :: ข่าวฟุตบอล