กติกาฟุตซอล 18 ข้อ
กติกาข้อ 1 เกี่ยวกับสนามแข่งขัน (THE PITCH) ระบุว่าสนามแข่งขันต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความยาวยาวกว่าความยาวของเส้นประตู และความกว้างกว่าความกว้างของเส้นประตู สำหรับสนามแข่งขันระหว่างชาติ (International Matches) ความยาวของสนามต้องเป็นไม่เกิน 42 เมตร และความกว้างต้องเป็นไม่เกิน 22 เมตร ส่วนสนามแข่งขันในการแข่งขันทั่วไป ความยาวของสนามต้องไม่เกิน 25 เมตร และความกว้างต้องไม่เกิน 15 เมตร กติกาข้อ 2 เกี่ยวกับลูกฟุตซอล (The Ball) ระบุว่าลูกฟุตซอลต้องเป็นทรงกลมทำด้วยหนังหรือวัสดุอื่นที่เหมาะสม รอบวงของลูกฟุตซอลต้องไม่น้อยกว่า 62 เซนติเมตร และไม่เกิน 64 เซนติเมตร น้ำหนักของลูกฟุตซอลต้องไม่น้อยกว่า 400 กรัม และไม่เกิน 440 กรัม ความดันของลูกฟุตซอลต้องอยู่ในระดับ 0.4 – 0.6 ระดับบรรยากาศ (400 – 600 กรัมต่อตารางเซนติเมตร) ที่ระดับน้ำทะเล กติกาข้อ 3 เกี่ยวกับจำนวนผู้เล่น (THE NUMBER OF PLAYERS) ระบุว่าในการแข่งขันฟุตซอล แต่ละทีมต้องมีผู้เล่นไม่เกิน 5 คน และต้องมีผู้เล่นคนหนึ่งเป็นผู้รักษาประตู อนุญาตให้มีผู้เล่นสำรองไม่เกิน 7 คน กติกาข้อ 4 เกี่ยวกับอุปกรณ์ของผู้เล่น (THE PLAYER’S EQUIPMENT) ระบุว่าผู้เล่นต้องไม่ใช้อุปกรณ์หรือสวมใส่สิ่งใดที่เป็นอันตรายต่อตนเองและผู้เล่นอื่น ๆ รวมถึงเครื่องประดับต่าง ๆ ทุกชนิด กติกาข้อ 5 เกี่ยวกับผู้ตัดสิน (THE REFEREE) ระบุว่าผู้ตัดสินมีอำนาจและปฏิบัติหน้าที่ตามกติกาการแข่งขัน และจะควบคุมการแข่งขันตั้งแต่เข้าสนามแข่งขันจนถึงสิ้นสุดการแข่งขัน ผู้ตัดสินที่สองจะช่วยเหลือผู้ตัดสินในการควบคุมการแข่งขันให้เป็นไปตามกติกาการแข่งขัน กติกาข้อ 6 เกี่ยวกับผู้ตัดสินที’ 2 (THE SECOND REFEREE) ระบุว่าผู้ตัดสินที’ 2 จะช่วยเหลือผู้ตัดสินในการควบคุมการแข่งขันให้เป็นไปตามกติกาการแข่งขัน กติกาข้อที่ 7 เกี่ยวกับผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที 3 (THE TIMEKEEPER AND THE THIRD REFEREE) ระบุว่าผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที 3 จะต้องอยู่ด้านนอกสนามทีเส้นแบ่งแดนด้านเดียวกับเขตเปลี่ยนตัว ผู้รักษาเวลาและผู้ตัดสินที 3 จะใช้นาฬิกาจับเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ที่แสดงให้เห็นการกระทำผิดกติการวม ซึ่งทางสมาคมและสโมสรทีเป็นเจ้าของสนามจัดเตรียมไว้ให้ก่อนเริ่มการแข่งขัน กติกาข้อ 8 ระยะเวลาของการแข่งขัน (THE DURATION OF THE MATCH) ระบุว่าการแข่งขันแบ่งระยะเวลาออกเป็น 2 ครึ่ง ครึ่งละ 20 นาทีเท่ากัน การรักษาเวลาเป็นหน้าที่ของผู้รักษาเวลา ซึ่งมีหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในกติกาข้อ 7 ระยะเวลาของการแข่งขันแต่ละครึ่งอาจมีการเพิ่มเวลาเพื่อการเตะโทษ ณ จุดโทษ และเวลานอก (Time-Out) ทั้งสองทีมมีสิทธิ์ขอเวลานอกเป็นระยะเวลา 1 นาที ได้ในแต่ละครึ่งเวลา ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้ การพักครึ่งเวลา (Half-time Interval) ต้องไม่เกิน 15 นาที
กติกาข้อที่ 9 เกี่ยวกับการเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่ (THE START AND RESTART OF PLAY) ระบุว่าการเริ่มเล่นและการเริ่มเล่นใหม่จะถูกกำหนดโดยการเตะลูกฟุตซอลจากจุดกลางของสนาม โดยทีมที่ไม่ได้เริ่มเล่นแรกจะได้เริ่มเล่นใหม่หลังจากทีมที่เริ่มเล่นแรกทำประตู หรือหลังจากการเตะลูกออกนอกสนาม การเริ่มเล่นใหม่จะเป็นการเตะลูกฟุตซอลจากจุดกลางของสนาม โดยผู้เล่นจะต้องอยู่ในส่วนของสนามของตนเอง และผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามจะต้องอยู่ห่างจากลูกฟุตซอลอย่างน้อย 3 เมตร จนกว่าลูกฟุตซอลจะถูกเตะออกจากจุดกลางของสนาม
กติกาข้อ 10 ลูกฟุตซอลอยู่ในและนอกการเล่น (THE BALL IN AND OUT OF PLAY) ลูกฟุตซอลที่อยู่ในการเล่น (Ball in Play) จะถือว่าเป็นลูกฟุตซอลที่อยู่ในการแข่งขันตลอดเวลา ตั้งแต่เริ่มเล่นจนกระทั่งสิ้นสุดการแข่งขัน นอกจากนี้ยังรวมถึงกรณีต่อไปนี้: 1. เมื่อลูกฟุตซอลกระทบเสาหรือคานประตูเข้าสู่สนามแข่งขัน 2. เมื่อมีการเตะเข้าเล่นและลูกฟุตซอลถูกวางไว้ในจุดที่ใกล้เส้นข้างและเส้นสมมติที่ขนานกับเส้นประตู ภายใต้เงื่อนไขที่ลูกฟุตซอลไม่สัมผัสเพดาน ลูกฟุตซอลที่อยู่นอกการเล่น (Ball out of Play) จะเกิดขึ้นในกรณีต่อไปนี้: 1. เมื่อลูกฟุตซอลผ่านเส้นประตูหรือเส้นข้าง ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นหรือในอากาศ 2. เมื่อผู้ตัดสินหยุดการเล่น 3. เมื่อลูกฟุตซอลกระทบเพดาน
กติกาข้อ 11 เกี่ยวกับการนับประตู (THE METHOD OF SCORING)
1. การทำประตู (Goal Scored) จะถือว่าได้ประตูเมื่อลูกฟุตซอลผ่านเส้นประตูระหว่างเสาประตูภายใต้คานประตู โดยต้องไม่มีการทำผิดกติกาการแข่งขันเกิดขึ้นโดยทีมที่ทำประตู
2. การทำประตูโดยตรงจากการเตะโทษ (Penalty Kick) จะถือว่าได้ประตูเมื่อลูกฟุตซอลถูกสัมผัสโดยผู้เล่นตรงข้ามและเข้าประตูโดยตรงจากการเตะโทษ
3. การทำประตูโดยอ้อมจากการเตะโทษ (Indirect Free Kick) จะถือว่าได้ประตูเมื่อลูกฟุตซอลถูกสัมผัสโดยผู้เล่นตรงข้ามและผู้เล่นทีมตัวเองก่อนที่ลูกฟุตซอลจะเข้าประตู
กติกาข้อ 12 เกี่ยวกับการเล่นที’ผิดกติกาและประพฤติผิด (FOULS AND MISCONDUCT) ระบุว่าการกระทำที่ผิดกติกาและการประพฤติผิดในการแข่งขันฟุตซอลจะถูกลงโทษด้วยโทษโดยตรงหรือโทษโดยอ้อม โดยข้อความกำหนดโทษโดยตรงว่าถ้าผู้เล่นกระทำผิดตามความผิดข้อหนึ่งใน 6 ข้อที่ระบุไว้ จะถูกให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง โดยฝ่ายตรงข้ามจะได้เตะโทษโดยตรงได้แก่การเตะหรือพยายามเตะคู่ต่อสู้ การขัดขาหรือพยายามขัดขาคู่ต่อสู้ การกระโดดเข้าใส่คู่ต่อสู้ การชนคู่ต่อสู้รวมถึงการชนด้วยไหล่ การทำร้ายหรือพยายามทำร้ายคู่ต่อสู้ และการผลักคู่ต่อสู้
เตะ (Kick) หรือพยายามเตะคู่ต่อสู้
ขัดขา (Trips) หรือพยายามขัดขาคู่ต่อสู้
กระโดด (Jump) เข้าใส่คู่ต่อสู้
ชน (Charges) คู่ต่อสู้ รวมถึงการชนด้วยไหล่
ทำร้าย (Strikes) หรือพยายามทำร้ายคู่ต่อสู้
ผลัก (Pushes) คู่ต่อสู้
กติกาข้อ 13 การเตะโทษ(FREE KICK) ประเภทของการเตะโทษ (Type of Free Kick) การเตะโทษในฟุตซอล การเตะโทษในฟุตซอลแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การเตะโทษโดยตรง (Direct Free Kick) และการเตะโทษโดยอ้อม (Indirect Free Kick)
การเตะโทษโดยตรง
การเตะโทษโดยตรงเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นกระทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง เช่น ดึงคู่ต่อสู้, ผลักคู่ต่อสู้, ชนคู่ต่อสู้, ถ่มน้ำลายใส่คู่ต่อสู้, เล่นลูกบอลด้วยมือ เป็นต้น หากเตะโทษโดยตรงเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามทันที ถือว่าได้ประตู
การเตะโทษโดยอ้อม
การเตะโทษโดยอ้อมเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นกระทำผิดกติกาที่ไม่ร้ายแรง เช่น เล่นลูกบอลด้วยมือหลังจากที่ผู้เล่นฝ่ายเดียวกันส่งมาให้, เล่นลูกบอลด้วยมือหลังจากที่ผู้เล่นฝ่ายเดียวกันตั้งใจทุ่มบอลให้ เป็นต้น หากเตะโทษโดยอ้อมเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามทันที ถือว่าไม่ได้ประตู จะต้องให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามสัมผัสลูกบอลก่อนจึงจะเข้าประตูได้
กติกาข้อ 14 การฟาวล์รวม
ในการฟุตซอล การฟาวล์รวม (Accumulated Fouls) คือ การฟาวล์ที่แต่ละทีมกระทำผิดกติการวม 6 ครั้ง ในช่วงครึ่งเวลานั้นๆ โดยผู้ตัดสินจะลงโทษด้วยการเตะโทษโดยตรง (Direct Free Kick) ให้กับฝ่ายตรงข้าม การฟาวล์รวม 5 ครั้งแรก การฟาวล์รวม 5 ครั้งแรกของแต่ละทีมในแต่ละครึ่งเวลา จะถูกจดบันทึกไว้ในสรุปผลการแข่งขัน โดยผู้ตัดสินจะยกแขนขึ้นเหนือศีรษะเพื่อเตือนผู้กระทำผิด และผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามทุกคนต้องอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างน้อย 5 เมตร จนกว่าลูกบอลจะอยู่ในการเล่น
กติกาข้อ 15 การเตะโทษ ณ จุดโทษ (THE PENALTY KICK)
เป็นการลงโทษแก่ทีมที่กระทำผิดความผิดที่เป็นโทษโดยตรงภายในเขตโทษของฝ่ายตรงข้าม การเตะโทษจะเป็นประตูเมื่อลูกฟุตซอลทั้งลูกได้ผ่านเส้นประตูระหว่างเสาประตูภายใต้คานประตู ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องไม่มีการทำผิดกติกาการแข่งขันเกิดขึ้นโดยทีมที่ทำประตู
กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น (KICK IN)
การเตะเข้าเล่นเป็นวิธีการเริ่มต้นการเล่นใหม่ โดยผู้เตะต้องยืนอยู่ห่างจากลูกบอลอย่างน้อย 5 เมตร และเตะลูกบอลออกจากเส้นข้างเข้าไปสนาม ฝ่ายตรงข้ามกับผู้เล่นที่สัมผัสลูกบอลเป็นครั้งสุดท้ายจะได้เตะเข้าเล่น
เงื่อนไขการเตะเข้าเล่น
ลูกบอลต้องผ่านเส้นข้างออกไปทั้งลูก ไม่ว่าจะบนพื้นหรือในอากาศ หรือกระทบหลังคา
การเตะเข้าเล่นต้องกระทำจากจุดที่ลูกบอลตัดผ่านออกเส้นข้าง
ตำแหน่งของลูกบอลและผู้เล่น
ลูกบอลต้องวางนิ่งอยู่บนเส้นข้างหรือหลังเส้นข้างได้ไม่เกิน 25 เซนติเมตร
เท้าหรือลูกบอลต้องไม่เข้าไปในสนาม
การเตะเข้าเล่นสามารถเตะไปในทิศทางใดก็ได้
กติกาข้อ 17 การเล่นลูกจากประตู (THE GOAL CLEARANCE) การเล่นลูกจากประตู (THE GOAL CLEARANCE) เป็นวิธีการในการเริ่มเล่นใหม่หลังจากทีมที่ไม่ได้ทำประตู โดยการเตะลูกฟุตซอลจากภายในเขตประตูของทีมเอง การเตะลูกจากประตูต้องเป็นการเตะโดยตรง และลูกฟุตซอลต้องออกไปเกินเส้นประตูก่อนที่จะถูกสัมผัสโดยผู้เล่นอื่นๆ ก่อนที่จะเข้าสู่สนามเพื่อเริ่มเล่นใหม่ กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม (THE CORNER KICK) การเตะจากมุม (THE CORNER KICK) เป็นวิธีการในการเริ่มเล่นใหม่หลังจากลูกฟุตซอลได้ผ่านเส้นประตูออกไปทั้งลูก โดยการเตะลูกจากมุมของสนามของทีมตรงข้าม การเตะจากมุมต้องเป็นการเตะโดยตรง และลูกฟุตซอลต้องออกไปเกินเส้นประตูก่อนที่จะถูกสัมผัสโดยผู้เล่นอื่นๆ ก่อนที่จะเข้าสู่สนาม
อ้างอิง : กติกาฟุตซอล
Comments